วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556

Tamper-evident packaging ชนิดแถบหด




แถบหด
          แถบหดรอบฝาใช้หลักการหดตัวของพอลิเมอร์เมื่อถูกความร้อน ที่ใช้กันมากคือ PVC ในลักษณะเป็นหลอดกลมที่เส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่าฝาและวงแหวนรอบคอขวด ตัดให้ได้ความยาวตามต้องการด้วยเครื่องตัดอัตโนมัติ แล้วครอบลงตรงบริเวณฝาที่ปิดขวดและวงแหวนรอบคอขวด ดังแสดงในรูปที่ 1 จากนี้ขวดเคลื่อนตัวเข้าไปในอุโมงค์ร้อน ซึ่งทำให้แถบหดตัวรัดฝาแน่นกับฝาที่ปิดขวดและวงแหวนรอบคอขวด หากต้องการเอาฝาออกต้องทำลายแถบหด เราสามารถเอาแถบหดออกได้ง่ายขึ้น โดยจัดทำลักษณะรอยปรุเหนือบริเวณส่วนล่างขึ้นมาพองาม ซึ่งจะทำให้เห็นร่องรอยการแกะชัดเจนขึ้นประโยชน์ของแถบหดอยู่ที่บ่งชี้ร่อยรอยการแกะจำกัดบริเวณตรงฝาเท่านั้น ทำให้ไม่จำเป็นต้องหุ้มรอบภาชนะทั้งหมด ซึ่งทำให้ไม่สิ้นเปลืองวัสดุและเวลาที่ใช้ ผลิตภัณฑ์จึงมีราคาไม่แพงมากนัก

ผนึกบนปากภาชนะ
          การปิดผนึกบนปากภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ์เรียกว่าการปิดผนึกภายใน วัสดุที่ใช้ ได้แก่ เทอร์โมพลาสติก พอลิสไตรีนโฟม กระดาษแก้ว ฟิล์มพลาสติก หรือใช้หลายตัวร่วมกับฟอยล์อลูมิเนียม โดยมีการออกแบบเฉพาะตัว ให้ปิดผนึกบนปากภาชนะ และด้านล่างของฝา ดังนั้นจะเปิดผนึกได้จะต้องมีการตัดหรือทำให้แตกขาดเพื่อเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และเมื่อขจัดผนึก จะเห็นร่อยรอยการแกะและไม่สามารถนำผนึกกลับมาใช้ใหม่ได้ 2 ดังแสดงในรูปที่ 2
 
          การปิดผนึกภายในที่ดีนั้น ผนึกจะต้องอยู่ในสภาพดีไม่เปลี่ยนแปลง และสามารถปิดผนึกได้ทั่วถึง มีการแนะนำให้ใช้วิธีการเหนี่ยวนำความร้อนสำหรับฝาชนิดพลาสติก แต่ไม่ควรใช้กาวเหนียวที่ไวต่อแรงกด2 เพราะอาจหลุดได้ง่าย
 
การปิดผนึกภายในกับขอบปากภาชนะบรรจุ ทำให้เวลาเข้าถึงผลิตภัณฑ์จะต้องทำลายผนึกเท่านั้น โดยทั่วไปนิยมใช้กาวหรือเคลือบเหนียวที่ไวต่อความร้อน ความร้อนที่ได้เกิดจากการเหนี่ยวนำความถี่สูงให้แก่ฟอยล์อลูมิเนียมซึ่งส่วนประกอบของผนึกภายใน เมื่อปิดฝาขวด ขวดจะถูกนำไปผ่านขดลวดเหนี่ยวนำซึ่งเหนี่ยวนำให้เกิดการสั่นสะเทือนด้วยความถี่สูงที่ฟอยล์ ทำให้ฟอยล์ร้อนขึ้นและชั้นพอลิเมอร์ที่เคลือบด้านล่างจะปิดผนึกกับปากขวด ดังแสดงในรูปที่ 3 ทำให้ไม่สามารถแกะผนึกออกมาได้โดยไม่มีร่องรอยการแกะ วิธีนี้ใช้ได้ดีกับฝาพลาสติกเท่านั้น หากเป็นฝาโลหะจะรบกวนการเหนี่ยวความร้อนให้แก่ฟอยล์ นอกจากนี้จะต้องออกแบบผนึกภายในให้มีการพิมพ์หรือตกแต่งให้เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียว

Tamper-evident packaging ชนิดฝาโลหะที่ฉีกขาดได้




ฝาโลหะชนิดฉีกขาดได้          

          1. ฝาขึ้นรูปเกลียวกันขโมย 
          ฝาขึ้นรูปเกลียวกันขโมย เป็นฝาโลหะที่ผลิตจากอลูมิเนียมนำมาขึ้นรูปเกลียวด้วยเครื่องบีบแนบขวด (crimper) ขณะที่ครอบตรงคอขวด และทำให้ส่วนล่างของฝาปิดรัดตรงด้านล่างของคอ เรียกว่าฝั่งฝาหรือฝั่ง จากนี้จะเจาะด้วยเครื่องเจาะให้เป็นรอยปรุตรงแนวระนาบเหนือฝั่ง บริเวณที่ไม่ถูกเจาะเรียกสะพาน จะขาดง่ายเมื่อบิดทวนเข็มนาฬิกา ดังแสดงในรูปที่ 1
 

          2. ฝาแมกซี่คราวน์ (ฝามงกุฎแหวน)
          เริ่มผลิตโดยบริษัท Japan Crown Cork (JCC) ในปี 1992 ที่ประเทศญี่ปุ่นใช้ชื่อ Maxi-PG ฝาแบบนี้มี 3 ส่วน คือ (1) เปลือกฝา ทำด้วยแผ่นอลูมิเนียมหนา 0.21 และ 0.24 มม. ตามลักษณะการทนแรงดันน้อยหรือมาก (2) แผ่นรองฝา ทำด้วย LDPE (พอลิเอธิลีนความหนาแน่นต่ำ) ซึ่งมีขีดการปิดผนึกทั้ง 2 ด้าน ทั้งด้านบนและด้านล่างที่แนบกับส่วนบนของปากขวด และ (3) วงแหวน ทำด้วย HDPE (พอลิเอธิลีนความหนาแน่นสูง) เชื่อมต่อกับเปลือกฝาซึ่งทนแรงขนาด 7 กิโลกรัม เวลาใช้จริงเพียง 3 กิโลกรัม และวงแหวนถูกออกแบบให้แนบกับข้างคอขวด3           มีหลักการออกแบบการเปิดฝา 3 วิธี คือ (1) คานงัดฝังใน (built-in) ขนาด 4 มม. เพื่อช่วยให้เปิดง่ายด้วยแรงน้อยๆ (2) การปลดออกอัตโนมัติ ใช้หลักที่แผ่นรองฝามีขนาดใหญ่กว่าบริเวณเปลือกฝาที่ทำแนวกริ๊ป เมื่อดึงวงแหวนขึ้นแผ่นรองฝาจะดันเปลือกฝาออกตรงแนวกริ๊ป หลุดออกจากวงแหวนอลูมิเนียมที่ล็อคคอขวด จึงทำให้เปลือกฝาหลุดออกมาได้ง่าย (3) ช่วงแรกควรดึงวงแหวนขึ้นเพื่อปลดแรงดันอากาศส่วนเกินออก และดึงลงกลับมาแนบขวดเหมือนเดิม3
 

          3. ฝาขึ้นรูปไม่มีเกลียวแบบใช้แล้วทิ้ง
          ดังรูปที่ 3 ฝาขึ้นรูปไม่มีเกลียว เป็นฝาโลหะที่ผลิตจากอลูมิเนียมซึ่งขณะที่ครอบตรงคอขวด เครื่องบีบแนบจะทำให้ส่วนล่างของฝาปิดรัตรงส่วนล่างของคอ ซึ่งเรียกว่าฝั่งฝา โดยไม่มีการขึ้นรูปเกลียวและไม่เจาะฝาแบบฝาขึ้นรูปเกลียวกันขโมย เมื่อแกะฝาชนิดนี้ออกจะไม่สามารถนำฝากลับมาใช้ปิดขวดได้อีก เพราะฝาถูกทำลายไปทั้งหมดหรือบางส่วน นิยมนำมาใช้กับยาฉีดปราศจากเชื้อ ยกตัวอย่าง ขวดบรรจุน้ำเกลือปราศจากเชื้อชนิดปริมาตรมาก (large volume parenterals: LVP) ไวอัลที่ใช้บรรจุผงปราศจากเชื้อหรือยาฉีดปริมาตรน้อย 
 

          ดังแสดงในรูปที่ 4 (ก) ฝาอลูมิเนียมแบบบนตัน จะต้องใช้เครื่องเปิดฝาเปิดออก (ข) แบบฉีกได้ จะต้องดึงส่วนสะพานแคบๆ ตรงที่ไม่เจาะให้ขาดออก และ (ค) แบบบนกลวงนั้น ควรปิดบนด้วยฝาพลาสติกซึ่งมีครีบด้านล่างที่พร้อมจะดึงให้หลุดออก (flip-off cap) เพื่อป้องกันการปนเปื้อน เพิ่มคุณสมบัติบ่งชี้ร่องรอยการแกะ และสะดวกที่ไม่ต้องใช้เครื่องเปิดฝา ดังแสดงในรูปที่ 5 ฝาแบบดึงครีบออกทำด้วยแผ่นกลม PP หรือ HDPE ที่มีครีบเล็กๆ เรียงเป็นแนววงแหวนที่เส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากับบริเวณกลวงของฝา ครีบจะฝังจากแนวกลวงไปอยู่ด้านล่างของฝาอลูมิเนียม มี 2 แบบคือ ดึงขึ้นตรงกลาง และดึงออกด้านข้าง เพื่อให้ครีบหลุดออก4
 




ที่มา: http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=81

Tamper-evident Packaging ชนิด ห่อฟิล์ม


 Tamper-Evident Packaging

บรรจุภัณฑ์บ่งชี้ร่องรอยการแกะ

ห่อฟิล์ม 
สามารถแบ่งห่อฟิล์มตามรูปลักษณ์ได้ 3 แบบ ดังนี้
  1. ห่อฟิล์มแบบทบปลายสามด้าน
  2. ห่อฟิล์มปิดผนึกแบบครีบปลา
  3. ห่อฟิล์มหด
ห่อฟิล์มแบบทบปลายสามด้าน 
การห่อฟิล์มแบบทบปลายสามด้าน กระทำได้โดยดันผลิตภัณฑ์เข้าไปในแผ่นฟิล์มให้ทับซ้อนผลิตภัณฑ์ ต่อมาทบปลายทั้งสามด้านแบบห่อของขวัญดังรูป 1. บริเวณทบปลายที่ซ้อนกันจะถูกปิดผนึกโดยกดกับแท่งปิดผนึกที่ตั้งอุณหภูมิร้อนที่เหมาะสม ฟิล์มที่ใช้จะต้องมีคุณสมบัติปิดผนึกด้วยความร้อน ได้แก่ เซลโลเฟนที่เคลือบด้วยพอลิไวนิลลิดีนคลอไรด์ (PVDC) และยังเป็นเกราะที่ป้องกันความชื้นได้ดีการห่อที่ต้านการแกะที่ดีจะต้องปิดผนึกอย่างดี มีการพิมพ์และตกแต่งลวดลายที่ยากจะปลอมแปลง เพราะอาจมีการทำเทียมหรือเลียนแบบ ผิวพิมพ์บนกล่องบรรจุยาควรเป็นเคลือบเงาที่ไวต่อความร้อน เมื่อห่อมิดระหว่างปิดผนึกจะเกิดการยึดเกาะถาวรระหว่างฟิล์มกับกล่องกระดาษ การแกะห่อทำให้ลอกผิวกล่องออกไปไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้อีก3

รูป 1. ระบบการห่อฟิล์มแบบทบปลายสามด้าน
ห่อฟิล์มปิดผนึกแบบครีบปลา
ดังแสดงในรูป 2. การห่อที่ปิดผนึกแบบครีบปลา เป็นการห่อที่ไม่ต้องอาศัยผลิตภัณฑ์เป็นพื้นที่ให้ฟิล์มทับซ้อนเหมือนแบบแรก แต่จะใช้วิธีคลุมผลิตภัณฑ์ให้มิดจนถึงช่วงกลางด้านล่างของผลิตภัณฑ์ซึ่งถูกปิดผนึกด้วยลูกกลิ้งปิดผนึกตามยาว ส่วนด้านข้างจะปิดผนึกด้วยแท่งให้ความร้อน 2 ตัว ซึ่งไม่ต้องปิดผนึกโดยพิงบรรจุภัณฑ์ ทำให้สามารถเพิ่มแรงกดของการปิดผนึกได้ ทำให้ได้การปิดผนึกที่สมบูรณ์แข็งแรง

รูป 2. ห่อปิดผนึกแบบครีบปลา
ห่อฟิล์มหด
ห่อฟิล์มหดใช้หลักการบรรจุผลิตภัณฑ์ในฟิล์มเทอร์โมพลาสติกซึ่งยืดตัวตรง แต่เมื่อถูกความร้อน โมเลกุลพอลิเมอร์จะไม่เยือกแข็ง และกลับหดตัว ที่เห็นดังรูป 3. ฟิล์มถูกม้วนให้ทบตรงกลางอยู่ภายในม้วน เมื่อฟิล์มถูกหมุนคลายม้วนออกมาบนเครื่องห่อ จะเกิดฟิล์ม 2 ชั้นแยกกันโดยมีถุงลมอยู่ตรงกลาง ซึ่งสามารถสอดผลิตภัณฑ์เข้าไปได้ แท่งปิดผนึกรูปตัวแอลจะปิดผนึกส่วนที่เหลือจากการห่อและตัดแต่งส่วนเกินออก ผลิตภัณฑ์ที่ถูกห่ออย่างหลวมๆ จะเคลื่อนตัวผ่านอุโมงค์ร้อน ซึ่งจะทำให้ห่อหดตัวคลุมผลิตภัณฑ์ได้แน่น ฟิล์มที่นิยมใช้กัน ได้แก่ พอลิเอธิลีน (PE) พอลิโพรไพลีน (PP) และ พอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) คุณสมบัติทางกายภาพที่ต้องคำนึงถึงมี การฉีกขาด และแรงที่ทำให้ฉีดขาด (tensile strength) การต้านการเจาะ และแรงหดตัว ข้อพิจารณาพิเศษต่างๆ ในการเลือกวัสดุจำเพาะกับผลิตภัณฑ์ ทำให้ห่อแบบฟิล์มหดมีบูรณาการที่เหมาะสม ไม่ทำให้ผลิตภัณฑ์แตกร้าวหรือเสียหาย เครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ห่อจะต้องมีความยืดหยุ่นในการใช้งานและราคาไม่แพง

รูป 3. ห่อแบบฟิล์มหด


วิธีการสังเกตร่องรอยการแกะ
การแกะห่อฟิล์มออกเพื่อเข้าถึงผลิตภัณฑ์ จะทำให้เห็นร่องรอยการฉีกขาดเกิดขึ้น ผู้บริโภคจะต้องไม่ซื้อหรือบริโภคผลิตภัณฑ์จากห่อที่มีร่องรอยการแกะ ตรงห่อฟิล์มจะต้องออกแบบให้มี ชื่อผลิตภัณฑ์ เครื่องหมายการค้า โลโก้ หรือรูปภาพที่ยากที่จะทำเทียมหรือเลียนแบบ เพื่อว่าหากมีการแกะห่อเพื่อปนปลอมผลิตภัณฑ์ เมื่อห่อกลับโดยใช้ห่อฟิล์มอันใหม่ จะทำได้ง่ายหากไม่ออกแบบดังที่ที่กล่าวมา แต่จะต้องใช้วิธีพิมพ์ตรงบนฟิล์มมาก่อนทำห่อ โดยไม่ใช้วิธีการติดฉลากกระดาษ เพราะจะมีการดึงฉลากกระดาษออกไปได้เพื่อที่จะกลับติดฉลากใหม่